ล้างเคลือบสี | PREMIUM WAX

ล้างเคลือบสี คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

การ “ล้างเคลือบสี” คือกระบวนการดูแลรักษารถยนต์ที่ช่วยเพิ่มความเงางามและปกป้องสีรถจากปัจจัยต่างๆ ที่อาจทำให้สีรถเสื่อมสภาพ เช่น คราบสกปรก รอยขีดข่วน แสงแดด และน้ำฝน โดยทั่วไปแล้ว การล้างเคลือบสีจะประกอบไปด้วยสองขั้นตอนหลักๆ คือ:

1. การล้าง: เป็นการทำความสะอาดพื้นผิวรถยนต์เพื่อขจัดคราบสกปรก ฝุ่นละออง และสิ่งต่างๆ ที่ติดอยู่บนตัวรถ การล้างที่ถูกต้องจะช่วยลดโอกาสในการเกิดรอยขีดข่วนในขั้นตอนต่อไป
2. การเคลือบสี: เป็นการใช้น้ำยาเคลือบสีหรือแว็กซ์เคลือบลงบนพื้นผิวรถยนต์ เพื่อสร้างชั้นฟิล์มบางๆ ที่ช่วยปกป้องสีรถและเพิ่มความเงางาม

ประโยชน์ของการล้างเคลือบสี

• เพิ่มความเงางาม: การเคลือบสีจะช่วยให้รถดูเงางามเหมือนใหม่ สร้างความโดดเด่นและน่ามอง
• ปกป้องสีรถ: ชั้นฟิล์มที่เกิดจากการเคลือบสีจะช่วยป้องกันสีรถจากรังสี UV คราบสกปรก มูลนก ยางไม้ และสิ่งต่างๆ ที่อาจทำให้สีรถซีดจางหรือเป็นรอย
• ลดการเกิดรอยขีดข่วน: การเคลือบสีจะช่วยลดการเกิดรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ จากการล้างรถหรือการใช้งานทั่วไป
• ทำความสะอาดง่าย: รถที่เคลือบสีแล้วจะทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสิ่งสกปรกจะไม่เกาะติดแน่น
• รักษามูลค่ารถ: การดูแลรักษาสีรถให้ดีจะช่วยรักษามูลค่าของรถเมื่อต้องการขายต่อ

ประเภทของการเคลือบสี

การเคลือบสีมีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไป ดังนี้:

• แว็กซ์ (Wax): เป็นการเคลือบสีแบบดั้งเดิม ใช้งานง่าย ราคาไม่แพง แต่ความทนทานค่อนข้างน้อย ต้องเคลือบซ้ำบ่อยๆ
• ซิลิโคน (Silicone): มีความทนทานกว่าแว็กซ์ ให้ความเงางามที่ดี และป้องกันรอยขีดข่วนได้บ้าง
• โพลีเมอร์ (Polymer): มีความทนทานสูงกว่าซิลิโคน ให้ความเงางามและปกป้องสีรถได้ดีกว่า
• แก้ว (Glass Coating/Ceramic Coating): เป็นการเคลือบสีที่มีความทนทานสูงสุด ให้ความเงางามเป็นพิเศษ ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม แต่มีราคาสูงที่สุด

ควรล้างเคลือบสีบ่อยแค่ไหน?

ความถี่ในการล้างเคลือบสีขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อม หากใช้รถบ่อยและต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ควรล้างเคลือบสีบ่อยขึ้น เช่น ทุกๆ 1-2 เดือน แต่ถ้าใช้งานทั่วไป อาจจะล้างเคลือบสีทุกๆ 3-6 เดือน