หลายท่านคงคิดว่าหน้าฝนไม่จำเป็นต้องล้างรถบ่อยๆ เพราะถึงอย่างไรฝนก็คงตกอยู่ดีให้น้ำฝนช่วยล้างรถไปเลยใช่ไหมล่ะครับ? ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายท่านคงเคยได้ยินมาบ่อยๆ แต่อยากจะบอกว่าเป็นความเจ้าใจที่ผิดนะครับ ยิ่งเป็นหน้าฝนยิ่งต้องล้างรถบ่อยขึ้น เพราะน้ำฝนนั้นจะส่งผลเสียในระยะยาวมากกว่าที่คิดนั่นเอง แนะนำให้ล้างรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อเป็นการขจัดสิ่งสกปรกที่อาจทำอันตรายต่อพื้นผิวและชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ สำหรับข้อดีของการล้างรถหน้าฝนมีประโยชน์บ้างนะ
น้ำฝนอาจช่วยล้างฝุ่นละออง เกสรดอกไม้หรือล้างฝุ่นที่หลุดออกง่ายได้ แต่สำหรับอนุภาคที่เกาะหนึบอยู่กับพื้นผิวอย่างเช่น คราบน้ำมัน คราบไอเสีย มลภาวะรวมถึงสารเคมีที่กระเด็นมาติดขณะขับขี่อยู่บนถนนนั้น อาจมองด้วยตาเปล่าแล้วรถของคุณอาจจะดูสะอาดขึ้นหลังจากขับฝ่าฝนตกหนักมาใหม่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อรถโดนลม โดนแดดจนน้ำที่เกาะบนตัวรถแห้ง ทำให้น้ำที่เกาะบนพื้นผิวจะแห้งไปด้วย จนกลายเป็นคราบฝังแน่นบนพื้นผิวรถยนต์ นอกจากจะทำให้ทำความสะอาดได้ยากขึ้นและเมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานไปอาจจะถูกกัดกร่อนสารเคลือบสี ส่งผลให้สีของรถยนต์ซีดลงได้นั่นเองครับ
ขณะฝนตกหรือหลังฝนตกอาจมีเศษใบไม้ เกสรดอกไม้หรือแม้แต่แมลง โดยเฉพาะแมงเม่าที่ปีกมักจะหลุดมาติดตามพื้นผิวที่เปียก เมื่อสิ่งเหล่านี้แห้งติดบนพื้นผิวรถจนเป็นคราบแห้งกรังจะทำให้ทำความสะอาดได้ยาก รอยเปื้อนบางจุดล้างด้วยแชมพูล้างรถอย่างเดียวคงไม่ออก ต้องพึ่งพาน้ำยาทำความสะอาดชนิดพิเศษจากบริการร้านล้างรถเท่านั้น
การใช้งานรถยนต์ในขณะที่ฝนตกเมื่อใช้บ่อยครั้งนั้นเท่ากับว่ารถของคุณมีโอกาสสัมผัสความชื้นมากยิ่งขึ้น อาจทำให้เกิดความชื้นสะสมอาจส่งผลให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ รวมไปถึงภายในของเครื่องยนต์เกิดเป็นสนิมได้ครับ ดังนั้นควรล้างทำความสะอาดเป็นประจำโดยเช็ดให้แห้ง และพยายามจอดในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดีจะช่วยลดความชื้นสะสมที่เป็นตัวต้นเหตุของการเกิดสนิมได้ครับ
ในช่วงหน้าฝนรถของคุณคงจะหลีกเลี่ยงโคลน เศษดิน เม็ดทรายขนาดใหญ่ สารพัดสิ่งสกปรกบนท้องถนนไม่ได้ เนื่องจากโคลน ดิน ทราย ล้วนประกอบด้วยแร่ธาตุที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อน ขณะที่น้ำเสียมักมีสารเคมีปนเปื้อนอยู่หลายชนิด ซึ่งผู้ขับขี่ก็ไม่มีทางทราบได้เลยว่ามีอะไรบ้างที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานจะทำให้สิ่งสกปรกเหล่านี้อาจเกาะติดพื้นผิวรถยนต์ของคุณ และพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สีรถหมองได้นะครับ
สำหรับท่านใดที่อาศัยอยู่ใกล้เขตโรงงานอุตสาหกรรมหรือต้องนำรถไปจอดในพื้นที่นั้น รถของคุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเจอทั้งมลภาวะ หมอกควัน และฝนกรดที่มีค่าความเป็นกรดสูงมากกว่าน้ำฝนทั่วไป ซึ่งถ้าโดนบ่อยๆ และติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน สารเคลือบสีของรถยนต์จะเกิดความเสียหายชนิดยากที่จะฟื้นคืน ดังนั้นถ้าจะให้ดีควรล้างรถให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ทันทีหลังฝนตกนะครับ
การทิ้งรถให้ตากฝนหรือขับรถเปียกฝน หลายท่านอาจมองว่าไม่เป็นไรเพราะเดี๋ยวฝนก็ตกอีก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง การล้างรถหน้าฝนยังคงต้องล้างเพื่อทำความสะอาดเป็นประจำอยู่เสมอ สำหรับหลักการล้างรถในช่วงหน้าฝนมีอะไรบ้างที่จะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ทุกครั้งหลังฝนตกควรทำการล้างรถเพื่อให้สิ่งสกปรกต่างๆ หลุดออกจากตัวรถโดยไว รวมไปถึงการปรับสภาพพื้นผิวที่ถูกน้ำที่อาจจะมีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่างสูงให้กลับมามีสภาวะปกติ ถ้าหากล้างไปแล้วเจอฝนตกอีกครั้งโดยที่ยังไม่ได้ขับรถออกไปไหน การฉีดน้ำล้างตัวถังรถอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการรีบจัดการกับคราบน้ำ คราบโคลนต่างๆ ให้หลุดออกจากตัวถังรถอย่างรวดเร็วที่สุด
ซุ้มล้อบังโคลนเป็นแหล่งสะสมของคราบโคลนที่จะค่อยๆ เกาะแน่น และพอกพูนจนกลายเป็นคราบดินแข็งทำให้ล้างออกได้ยาก รวมไปถึงช่วงล่าง และตัวถังรถที่มักจะถูกโคลนกระเด็นใส่เป็นประจำ
สำหรับการล้างรถด้วยวิธีการปกติอาจไม่เพียงพอ การใช้แรงดันสูงจะช่วยทำให้คราบฝังแน่นเหล่านั้นหลุดออกมาได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่เราไม่สามารถเอื้อมมือเข้าไปขัดถูได้นั่นเองครับ
ควรฉีดน้ำไล่จากข้างบนลงไปสู่ข้างล่างเพราะจะทำให้การทำความสะอาดทำได้ง่ายมกาขึ้น และพื้นที่ตัวถังช่วงล่างจะได้รับการหล่อน้ำอยู่เสมอซึ่งช่วยให้คราบฝังแน่นหลุดออกได้ง่ายกว่า
โดยการล้างรถควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้งดีที่สุด เพื่อเป็นการตรวจเช็คบำรุงรักษาและลงแว็กซ์เคลือบรถให้เงางาม จะได้ช่วยปกป้องสีรถ การลงแว็กซ์เป็นประจำจะทำให้คราบฝังแน่นต่างๆ เกาะติดตัวถังรถได้ยากขึ้น แน่นอนว่าทำให้การทำความสะอาดสามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยนะครับ
การไม่ล้างรถในช่วงที่ฝนตกหรือในฤดูฝนเท่ากับว่าเรากำลังปล่อยปละละเลย ทำให้รถของคุณหมองคล้ำ ไม่สวยสดใสอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นการทำร้ายรถทางอ้อมนะครับ ฉะนั้นการล้างรถหน้าฝนบวกกับความพิถีพิถันเข้าไปถือว่ามีความจำเป็นอย่างมากเลย อีกทั้งยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานรถของคุณได้อีกด้วยนะ
การล้างรถในหน้าฝน เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อรถของคุณ ควรล้างรถอย่างสม่ำเสมอ และดูแลรักษารถอย่างถูกวิธี เพื่อให้รถของคุณสวยงาม และใช้งานได้ยาวนาน
การล้างรถอย่างถูกวิธี ช่วยให้รถของคุณดูสะอาด เงางาม และใช้งานได้ยาวนาน